ทำไมฟุตบอลอิตาลียุค 90 ที่เคยเป็นเบอร์ 1 ของโลก ถึงพังทั้งระบบ?
หากพูดถึงยุคทองของฟุตบอลอิตาลี ไม่มีใครไม่คิดถึงช่วงทศวรรษ 1990 – ยุคที่ “กัลโช่ เซเรีย อา” เป็นลีกอันดับหนึ่งของโลก เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์อย่าง โรนัลโด้ R9, ซีดาน, คันนาวาโร, ฟรันโก บาเรซี, มัลดินี, อันเดรอา ปีร์โล, เดล ปิเอโร, บัจโจ, ต๊อดติ และอีกมากมาย ไม่เพียงแค่ตัวนักเตะเท่านั้น แต่ทั้งระบบของฟุตบอลอิตาลีในเวลานั้นเปี่ยมด้วยความแข็งแกร่ง ทั้งระดับสโมสรและทีมชาติ
แต่ทำไมจากจุดสูงสุดจึงกลายเป็นความตกต่ำที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่มาจนถึงปัจจุบัน?
1. ระบบพึ่งพานักเตะต่างชาติมากเกินไป
ช่วงปี 90 สโมสรยักษ์ใหญ่ในอิตาลีแข่งขันกันดึงนักเตะต่างชาติเข้าทีมอย่างบ้าคลั่ง ทั้งจากอเมริกาใต้และยุโรป สิ่งนี้แม้จะยกระดับคุณภาพเกมในระยะสั้น แต่กลับส่งผลเสียระยะยาว เพราะนักเตะเยาวชนอิตาลีไม่ได้รับโอกาสพัฒนาเท่าที่ควร ส่งผลให้ทีมชาติขาดความต่อเนื่องเมื่อถึงช่วงเปลี่ยนผ่านรุ่น
2. ปัญหาการบริหารและโครงสร้างสโมสร
หลายสโมสรอิตาลีในยุคนั้นบริหารโดยเจ้าของที่เน้นผลลัพธ์ระยะสั้น ขาดการลงทุนในระบบเยาวชนหรือโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อเทียบกับอังกฤษหรือเยอรมนีที่ค่อย ๆ วางรากฐานอย่างมั่นคง อิตาลีกลับอยู่กับความสำเร็จชั่วคราว และเมื่อลีกเริ่มประสบปัญหาทางการเงิน ก็ไม่มีระบบสำรองรองรับ
3. เรื่องอื้อฉาวและคดีล้มบอล
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญคือคดี “Calciopoli” ในปี 2006 ซึ่งเปิดโปงการล็อกผลการแข่งขันและการแทรกแซงของกรรมการ ส่งผลให้ ยูเวนตุส ถูกปรับตกชั้น และอีกหลายสโมสรโดนตัดแต้มหรือเสียชื่อเสียง เหตุการณ์นี้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของทั้งแฟนบอลและนักลงทุนในระบบฟุตบอลอิตาลี
4. ความล้มเหลวในการปรับตัวตามโลกฟุตบอลยุคใหม่
ฟุตบอลยุคใหม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่เทคโนโลยี, การตลาด และแนวทางการเล่น ขณะที่อังกฤษพัฒนา "พรีเมียร์ลีก" จนกลายเป็นแบรนด์ระดับโลก และสเปนเร่งส่งออกภาพลักษณ์ของ "ลาลีกา" แต่กัลโช่ เซเรีย อา กลับยังติดอยู่กับระบบราชการล้าหลัง และไม่สามารถปรับตัวได้ทันท่วงที
5. สนามเก่า, การเงินอ่อนแอ และแฟนบอลหดหาย
สนามในอิตาลีหลายแห่งยังเป็นของรัฐ ไม่ได้ปรับปรุงหรือพัฒนาให้ทันสมัย ส่งผลให้รายได้จากตั๋วและการตลาดลดลง อีกทั้งปัญหา "อุลตร้า" และความรุนแรงในสนามก็ทำให้ครอบครัวและแฟนบอลทั่วไปเริ่มตีตัวออกห่าง ฟุตบอลอิตาลีจึงสูญเสียฐานแฟนในประเทศอย่างต่อเนื่อง
สรุป
ฟุตบอลอิตาลียุค 90 คือยุคแห่งความรุ่งโรจน์ที่แท้จริง แต่การพังของระบบไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว หากเป็นผลรวมของหลายองค์ประกอบ ทั้งภายในและภายนอก สนาม ไม่ว่าจะเป็นการพึ่งพาต่างชาติมากเกินไป ความล้มเหลวในการวางรากฐาน หรือการไม่สามารถตามเทรนด์โลกฟุตบอลได้ทัน
แม้จะมีสัญญาณฟื้นตัวในบางช่วง เช่น การคว้าแชมป์ยูโร 2020 ของทีมชาติอิตาลี แต่หากไม่มีการปรับโครงสร้างเชิงลึกและระยะยาว ฟุตบอลอิตาลีก็อาจไม่มีวันกลับไปสู่จุดที่เคยเป็น “เบอร์ 1 ของโลก” ได้อีกเลย