ความพร้อมก่อนเกม

ฟลาเมงโก้ ภายใต้การคุมทีมของอดีตกองหลังเชลซีอย่าง ฟิลิเป้ หลุยส์ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและสปิริตที่ยอดเยี่ยมในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาเอาชนะเอสเปร็องซ์ เด ตูนิสสบายๆ และยังพลิกกลับมาชนะเชลซีได้ 3-1 หลังจากโดนนำไปก่อน ซึ่งบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นและความสามารถในการทำประตู แม้จะมีข่าวว่า นิโคลัส เด ลา ครูซ มีปัญหาบาดเจ็บ แต่การได้พักผู้เล่นหลักในเกมสุดท้าย ทำให้ทีมกลับมาฟิตเต็มที่

บาเยิร์น มิวนิค ของ วินเซนต์ คอมพานี เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ได้อย่างดุเดือดด้วยการถล่มโอ๊คแลนด์ ซิตี้ 10-0 และยังเอาชนะโบคา จูเนียร์สได้อย่างหืดขึ้นคอ 2-1 อย่างไรก็ตาม พวกเขามาสะดุดพ่ายเบนฟิก้า 0-1 ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าฟอร์มของทีมไม่ได้คงที่เสมอไป แม้ว่า จามาล มูเซียล่า จะทำแฮตทริกได้ในเกมกับโอ๊คแลนด์ แต่ก็มีปัญหาเรื่องความฟิต และการขาด คิม มิน-แจ และ อัลฟอนโซ่ เดวีส์ ก็ส่งผลต่อแนวรับ

ทรรศนะ Ballded

เกมนี้คือบิ๊กแมตช์ที่น่าจับตามองในรอบน็อกเอาต์ บาเยิร์น มิวนิค แม้จะออกสตาร์ทได้อย่างดุดันในสองเกมแรก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนในเกมที่พ่ายเบนฟิก้า 0-1 ซึ่งเป็นผลการแข่งขันที่น่าประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์ยุโรปและระดับนานาชาติ รวมถึงขุมกำลังที่เต็มไปด้วยผู้เล่นระดับโลกอย่าง แฮร์รี่ เคน และ จามาล มูเซียล่า (ที่แม้จะเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บและอาจยังไม่ฟิตเต็มร้อย แต่ก็คาดว่าจะได้ลงสนาม) ยังคงเป็นข้อได้เปรียบทางด้านจิตวิทยาและแท็กติกสำหรับทีม "เสือใต้"

ขณะที่ ฟลาเมงโก้ ภายใต้การนำของ ฟิลิเป้ หลุยส์ ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเฉพาะการพลิกกลับมาชนะเชลซีได้ และการได้พักผู้เล่นหลักในเกมสุดท้ายก็ถือเป็นข้อดี พวกเขาจะเน้นการเล่นที่รวดเร็ว การจัดระเบียบทีมที่ดี และการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกที่เฉียบคม

ฟันธง : บาเยิร์นชนะ 2-1