ความพร้อมก่อนเกม

เปแอสเช ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลสโมสรโลก 2025 ได้สำเร็จ หลังเอาชนะบาเยิร์น มิวนิกไป 2-0 โดยได้ประตูจาก เดซีเร ดูเอ และ อุสมาน เดมเบเล่ ที่ซัดปิดกล่องในนาทีที่ 96 แม้จะจบเกมด้วยผู้เล่นเพียง 9 คน เนื่องจาก วิลเลียน ปาโช และ ลูกาส แอร์น็องเดซ โดนใบแดง จุดแข็งของเปแอสเชในทัวร์นาเมนต์นี้คือความเหนียวแน่นของเกมรับ นำโดยฟอร์มอันโดดเด่นของ จันลุยจี ดอนนารุมมา ที่โชว์เซฟสำคัญหลายจังหวะ ขณะที่เกมรุกยังคงพึ่งพาความวูบวาบของ เดมเบเล่ และความเร็วของแนวรุกฝั่งซ้าย อย่างไรก็ตาม การขาดกองหลังตัวหลักถึงสองรายในเกมนี้อาจเป็นจุดอ่อนสำคัญ

เรอัล มาดริด ผ่านรอบ 8 ทีมสุดท้ายมาแบบหวุดหวิด ด้วยชัยชนะ 3-2 เหนือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยได้ประตูจาก กอนซาโล การ์เซีย, ฟราน การ์เซีย และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองและซัดปิดท้าย ซึ่งถือเป็นการยิงใส่ทีมเก่าของเจ้าตัวอีกด้วย แม้จะไม่มีชื่อ ดีน ฮูย์เซน กองหลังดาวรุ่งที่ติดโทษแบน แต่ "ราชันชุดขาว" ยังมีตัวเลือกในแนวรับเพียบ แถมได้นักเตะใหม่อย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มาช่วยเสริมความดุดันฝั่งขวา ขณะที่เกมรุกก็มีหลากหลายตัวเลือกทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์, เอ็นรีเก้ อาเราโฆ และ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่พร้อมปั้นเกมจากแดนกลาง

ทรรศนะ Ballded

เกมนี้ถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างสองยักษ์ใหญ่จากยุโรปอย่างแท้จริง เปแอสเช มีเกมรุกที่เฉียบคมและฟอร์มการเซฟของดอนนารุมมาที่โดดเด่น แต่การขาดกองหลังตัวหลักถึงสองรายอาจทำให้พวกเขาต้องเล่นเกมรับอย่างระมัดระวังมากขึ้น

ในขณะที่ เรอัล มาดริด มีฟอร์มที่คงเส้นคงวาและนักเตะที่พร้อมสร้างความแตกต่างในจังหวะสำคัญหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เอ็มบัปเป้ หรือ วินิซิอุส จูเนียร์ นอกจากนี้ ด้วยเสียงเชียร์ของเจ้าถิ่นที่คาดว่าจะหนุนหลัง เรอัล มาดริด และแท็กติกที่เฉียบคมของ ชาบี อลอนโซ่ คาดว่า เรอัล มาดริด จะสามารถเฉือนชนะไปได้ในเกมที่สูสี

ฟันธง : เรอัลมาดริดชนะ 3-2