ความพร้อมก่อนเกม

เชลซี
ลูกทีมของเอ็นโซ่ มาเรสก้า เพิ่งชนะเบนฟิก้า 1-0 ในศึกแชมเปียนส์ลีก แต่ผลงานโดยรวมยังไม่นิ่งนัก โดย 6 เกมหลังสุดเสียถึง 11 ประตู แนวรับยังมีรอยรั่วให้เห็น แม้จะเก็บชัยได้บ้างแต่ฟอร์มยังแกว่ง ขาดผู้เล่นสำคัญหลายราย เช่น โคล พาล์มเมอร์ (โคนขาหนีบ), เลวี่ โคลวิลล์ (เอ็นไขว้หน้า), เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (กระทบกระเทือนสมอง), ลิอัม เดแล็ป (เอ็นหลังหัวเข่า) คาดว่าจะจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 มีโรเบิร์ต ซานเชซ; รีซ เจมส์, จอช อาชีอัมปง, ยอร์เรล ฮาโต้, มาร์ก คูคูเรญ่า; อันเดรย์ ซานโตส, มอยเซส ไกเซโด้; เอสเตวาโอ, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, เปโดร เนโต้; เจา เปโดร

ลิเวอร์พูล
อาร์เน่ สลอต เพิ่งพาลูกทีมแพ้กาลาตาซารายในถ้วยยุโรป แต่ก่อนหน้านั้นเก็บชัยชนะ 4 นัดรวดในทุกรายการ หงส์แดงมีเกมรุกดุดัน ยิงได้ 10 ประตูจาก 6 นัดหลัง และยังไม่เคยยิงว่างเปล่าในช่วงนั้น แต่เกมรับก็ยังเสียถึง 6 ประตู จะไม่มีโจวานนี่ เลโอนี่ (เอ็นไขว้หน้า) และสเตฟาน บายเซติช (แฮมสตริง) แต่ยังมีแนวรุกครบถ้วน คาดว่าจัดระบบ 4-2-3-1 โดยมีจอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่; คอเนอร์ แบรดลีย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, มิลอส เคอร์เกซ; ไรอัน กราเวนเบิร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล, ฟลอเรียน เวิร์ตซ์; ฮูโก้ เอคิติเก้

ทรรศนะ Ballded

เชลซีในบ้านยังสร้างความกดดันได้ แต่แนวรับมีช่องให้โจมตี ส่วนลิเวอร์พูลเกมรุกยังคงอันตรายโดยมีซาลาห์และเวิร์ตซ์เป็นตัวขับเคลื่อน แม้เชลซีจะมีโอกาสยิงได้ แต่คุณภาพโดยรวมและความเฉียบคมของหงส์แดงมีภาษีดีกว่า

ฟันธง : ลิเวอร์พูลชนะ 2-0