ปลื้มใจ! 'มาเกเลเล่' ชม 'ไคเซโด้' สานตำนานแดนกลางสิงห์

อาจจะสามารถแซงหน้าความสำเร็จอันเหลือเชื่อของเขาได้ในอนาคต และพร้อมที่จะเห็นบทบาทสำคัญนี้ถูกเรียกว่า 'ตำแหน่งไคเซโด้' ในวันข้างหน้า!

"เชลซี มีนักเตะเก่งๆ นักเตะดาวรุ่งและมีพรสวรรค์" มาเกเลเล่ กล่าว "ผมเห็นพวกเขาพัฒนาขึ้นมาก และผมภูมิใจในสโมสรแห่งนี้"

"ผมรู้จัก เชลซี พวกเขาเป็นนักสู้ กองกลางก็เช่นกัน นักเตะดาวรุ่งอย่าง ไคเซโด้ และ [โรเมโอ] ลาเวีย ก็เป็นนักเตะที่เก่งมาก"

ตำแหน่งกองกลางตัวรับคือสิ่งที่ โคล้ด ได้สร้างชื่อเอาไว้ที่เดอะบริดจ์ จนถึงตอนนี้แฟนบอลบางคนยังคงเรียกบทบาทดังกล่าวว่า 'ตำแหน่งของมาเกเลเล่' อย่างไรก็ตาม ตำนานผู้นี้เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่จะส่งต่อบทบาทนี้ให้กับ ไคเซโด้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่มากพอที่จะทำให้ตำแหน่งนี้เป็นของเขาเอง และที่สำคัญที่สุดคือ ในแบบฉบับของเขาเอง

"ผมคิดว่าเขามีพรสวรรค์มากมายเลยนะ" มาเกเลเล่ กล่าวต่อ "มอย เป็นคนถ่อมตัว เขาเล่นด้วยรอยยิ้มและทำงานหนักเพื่อเพื่อนร่วมทีม"

"ผมเองก็ทำแบบนั้นตอนที่ผมเล่น สนุกกับตัวเอง เขามีแพสชั่นและเป็นนักสู้ ผมคิดว่าแพสชั่นและการต่อสู้มีความสำคัญพอๆ กับพรสวรรค์"

"ผมรักเขามาก เพราะตอนที่เขาเริ่มต้นที่ เชลซี เราได้คุยกัน และเขาก็มีความสุขที่ได้ย้ายมา เชลซี เพื่อสร้างเส้นทางของตัวเอง เขาไม่อยากถูกนำไปเปรียบเทียบกับผม เขาอยากเล่นในบทบาทแบบ “ไคเซโด้””

มาเกเลเล่ ยังเสริมว่า "มันสำคัญมากเพราะผมอายุมากกว่าและเคยเล่นในระดับสูงกับ เรอัล มาดริด มาก่อนแล้ว ดังนั้นตอนนี้มันจึงค่อนข้างยากสำหรับเด็กหนุ่มที่จะพยายามเป็นผมตั้งแต่แรกโดยไม่มีประสบการณ์ หรือพยายามเป็นคนที่คนอื่นมองว่าผมเป็น"

"ผมชอบให้พวกเขากล้าทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ กล้าเขียนเรื่องราวของตัวเอง กลายเป็น “กาลาสติโก้” ในแบบของตัวเอง ผมจึงมีความสุขเพราะนั่นคือสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ การเอาแบบอย่างของผมมาต่อยอดในแบบของเขาคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาทำได้"

เมื่อถูกถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่นักเตะของ เชลซี ในอนาคตจะได้สืบทอดมรดกที่อาจถูกเรียกว่า ‘ตำแหน่งของไคเซโด้’?

มาเกเลเล่ ยิ้มตอบอย่างมั่นใจ "ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? ลองดูกีฬาประเภทไหนก็ได้ คนอย่าง ไมเคิล จอร์แดน และ โคบี้ ไบรอันท์ และความหมายของชื่อพวกเขาดูสิ แต่ตอนเริ่มเล่นพวกเขาทุกคนล้วนเป็นเด็กหนุ่มมาก่อน"

"ตอนนี้ ไคเซโด้ ก็เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเหมือนกัน และสามารถเขียนเรื่องราวของตัวเองได้ แล้วทำไมผู้คนถึงจะไม่พูดถึง ‘ตำแหน่งของไคเซโด้’ ในอนาคตล่ะ?"