เจ๊าแต่ไม่จืด!!! ทีมชาติไทยเสมอซาอุฯ ตีตั๋วเข้ารอบน็อคเอาท์แบบไร้พ่ายและยังไม่เสียประตู

เผยแพร่
ดู 262 ครั้ง 262
เจ๊าแต่ไม่จืด!!! ทีมชาติไทยเสมอซาอุฯ ตีตั๋วเข้ารอบน็อคเอาท์แบบไร้พ่ายและยังไม่เสียประตู

การแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย กลุ่ม เอฟ นัดที่สาม ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย (อันดับฟีฟ่าแรงกิ้ง 56) พบกับ ทีมชาติไทย (อันดับฟีฟ่าแรงกิ้ง 113) ณ เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม ประเทศกาตาร์ ผลปรากฎว่าจบเกมเสมอกันไป 0 : 0 ประตู ส่งผลให้ทั้งสองทีมกอดคอกันเข้ารอบ โดยซาอุฯเข้าเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนทีมชาติไทยเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม จากการแข่ง 3 นัด ชนะ 1 เสมอ 2 เก็บได้ 5 คะแนน และยังไม่เสียประตู

เจ๊าแต่ไม่จืด!!! ทีมชาติไทยเสมอซาอุฯ ตีตั๋วเข้ารอบน็อคเอาท์แบบไร้พ่ายและยังไม่เสียประตู

 

เกมนี้ทั้งสองทีมมีการหมุนเวียนนักเตะกันหลายตำแหน่ง โดยซาอุดิอาระเบีย เปลี่ยนผู้เล่นจากนัดที่แล้วถึง 7 ตำแหน่ง ขณะที่ทีมชาติไทยนั้น อาจารย์ มาซาทาดะ อิชิอิ เปลี่ยนทั้ง 11 ตำแหน่ง และถึงแม้ว่าทั้งสองทีมจะเข้ารอบแล้วแต่รูปเกมก็ไม่ได้จืดชืดอย่างที่คิด ถือว่าสู้กันได้สนุกเลยทีเดียว

 

ครึ่งแรก

เริ่มต้นมาเป็นทีมชาติไทยที่ครองบอลบุกใสซาอุดิอาระเบีย แต่ก็ยังไม่มีจังหวะที่จะแจ้งมากนัก จนกระทั่ง

นาทีที่ 12' ซาอุฯ ทำเกมรุกกลับ สุพรรณ ทองสงค์ กองหลังของทีมชาติไทยสกัดผู้เล่นของซาอุดิอาระเบียล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ค VAR ก่อนที่จะชี้ว่าเป็นจุดโทษ อับดุลลาห์ ฮาดี ราดิฟ กองหน้าจากสโมสร อัล ชาบับ อาสารับหน้าที่สังหาร แต่ ถูก สรานนท์ อนุอินทร์ ผู้รักษาประตูจากเชียงราย ยูไนเต็ด พุ่งเซฟเอาไว้ได้ ช่วยให้ไทยยังไม่เสียประตู

 

นาทีที่ 14' จากจังหวะสวนกลับของทีมชาติไทย เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ หลุดขึ้นมาทางฝังขวา ก่อนที่จะเปิดเข้าไปหน้าปากประตู และเป็น "เจ้าต้น" ธีรศักดิ์ เผยพิมาย พุงโขกเสียบเสาเข้าไปอย่าเด็ดขาด แต่ ผู้ช่วยผู้ตัดสิน เด็ดขาดกว่า ยกธงเป็นลูกล้ำหน้า ทำให้ไทยพลาดได้ประตูขึ้นนำ

 

และจากจังหวะต่อเนือง นาทีที่ 15' ซาอุฯ ขึ้นเกมมาทางฝั่งซ้าย ก่อนที่จะผ่านเข้าไปในกรอบเขตโทษ  อับดุลลาห์ ฮาดี ราดิฟ คนที่ยิงจุดโทษพลาด ซัดเข้าไปไม่พลาด แต่ไลน์แมนก็ไม่พลาดเช่นกัน ยกธงเป็นลูกล้ำหน้า ซาอุฯ เฮเก้อบ้าง

 

หลังจากนั้นเป็นซาอุที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่ทีมชาติไทย ขณะที่ไทยก็ตั้งรับรอสวนกลับและก็ทำได้ค่อนข้างดี ไม่ได้ปล่อยให้ซาอุฯ บุกจนได้ใจ

 

นาทีที่ 35' สันติภาพ จันทร์หง่อม เปิดบอลเข้าไปบริเวณกรอบเขตโทษ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โหม่งชงให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เพื่อนร่วมสโมสรการท่าเรือ หลุดเข้าไปยิงสวนตัวผู้รักษาประตูซาอุฯ เข้าไป แต่ก็ยังถูกจับล้ำน้า

 

รูปเกมยังเป็นซาอุฯ ที่ครองบอลบุกใส่ทีมชาติไทย แต่ไทยก็ช่วยกันรับ และมีจังหวะสวนตอบโต้ได้ดี แต่สุดท้ายก็ทำประตูกันทำให้จบ 45 นาทีแรก เสมอกัน 0-0

เจ๊าแต่ไม่จืด!!! ทีมชาติไทยเสมอซาอุฯ ตีตั๋วเข้ารอบน็อคเอาท์แบบไร้พ่ายและยังไม่เสียประตู

 

ครึ่งหลัง

เป็นซาอุดิอาระเบีย ที่เริ่มทำเกมบุกใส่ทีมชาติไทย

 

นาที่ที่ 57' อับดุลราห์มาน อับดุลลาห์ การีบ หลุดเดี่ยวจากครึ่งสนาม เข้าไปยิงสวนตัว สรานนท์ อนุอินทร์ เข้าไป แต่เช็ค VAR เป็นลูกล้ำหน้า ทีมชาติไทยรอดตัวไปแบบหวุดหวิด

 

ยังเป็นซาอุฯ ที่ครองบอลบุกใส่ไทย ส่วนไทยก็ยังช่วยกันรับได้ดี โดยเฉพาะ สรานนท์ โชว์เซฟช่วยทีมไว้ได้อยู่บ่อยครั้ง และไทยก็มีจังหวะสวนตอบโต้ได้เรื่อยๆ แต่ยังไม่มีจังหวะยิงอย่าถนัดถนี่มากนัก 

10 นาทีสุดท้าย ซาอุฯ ส่ง โมฮาเหม็ด คานโน ดาวเตะร่างโย่ง จากสโมสรอัล-ฮิลาล ที่สูงถึง192 เซ็นติเมตร ลงมาเพื่อโจมตีกลางอากาศ แล้วก็ดูวูบวาบในช่วงแรก แต่ทัพช้างศึกก็ไม่เสียท่าง่ายๆ

 

นาทีที่ 88' ทาลาล  ฮาจิ กองหน้าดาวรุ่งวัยเพียงแค่ 16 ปี ของซาอุฯ ได้จังหวะโขกเหน่งๆ แต่ สรานนท์ ยังพุ่งคว้าไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม 

 

ทดเวลาบาดเจ็บ 6 นาที ซาอุฯ พยายามเร่งเข้าใส่ทีมชาติไทย แต่ก็เจาะเกมรับของทัพช้างศึกไม่ได้ ทำให้หมดเวลาเสมอกันไป 0-0 

 

ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน คีร์กีซสถาน เสมอ โอมาน 1-1 กอดคอกันตกรอบ

ซึ่งผลการแข่งขันออกมาแบบนี้ทำให้ซาอุดิอาระเบียเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม ไปเจอกับเกาหลีใต้  ส่วนทีมชาติไทยเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ2 ของกลุ่ม เข้าไปเจอกับอุซเบกิสถาน ในวันที่ 30 มกราคม  เวลา 18.30 น.  ถ่ายทอดสดทาง PPTV HD ช่อง 36

เจ๊าแต่ไม่จืด!!! ทีมชาติไทยเสมอซาอุฯ ตีตั๋วเข้ารอบน็อคเอาท์แบบไร้พ่ายและยังไม่เสียประตู

 

 

รายชื่อ 11 ตัวจริง

สรานนท์ อนุอินทร์ (GK), สันติภาพ จันทร์หง่อม, กฤษดา กาแมน , สารัช อยู่เย็น (C), เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย, จักพัน ไพรสุวรรณ , ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, ศุภนันท์ บุรีรัตน์ , วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, สุพรรณ ทองสงค์

อ่านเพิ่มเติม