ความพร้อมก่อนเกม

โครเอเชีย ภายใต้การคุมทีมของ ซลัตโก้ ดาลิช กำลังอยู่ในช่วงที่ขวัญกำลังใจสูงลิบ หลังเพิ่งโชว์ฟอร์มโหดไล่ถล่มยิบรอลตาร์มาแบบขาดลอย 7-0 ความพร้อมก่อนเกมนี้ไม่มีรายงานนักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติมจากนัดก่อน ทำให้ผู้เล่นแกนหลักน่าจะยังยึดชุดเดิมเป็นหลัก โดยจะมาในระบบ 4-2-3-1 แดนกลางจะมีการปรับเล็กน้อยด้วยการส่ง ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์จอมเก๋าลงคุมจังหวะเกม ส่วนสามประสานแนวรุกจะใช้ อิวาน เปริซิช, มาร์ติน บาตูริน่า และ มาริโอ ปาซาลิช คอยสนับสนุน อันเต้ บูดิเมียร์ ที่รับบทหัวหอกตัวเป้าในการล่าตาข่าย ด้วยฟอร์มที่กำลังมั่นใจและได้เล่นในบ้าน ยิ่งเสริมความได้เปรียบมากขึ้นอีกเท่าตัว

เช็ก ภายใต้การนำทัพของ อิวาน ฮาเซ็ค ฟอร์มล่าสุดเปิดบ้านเก็บชัยเหนือมอนเตเนโกร 2-0 ทำให้ความมั่นใจของทีมเพิ่มขึ้นพอสมควร อย่างไรก็ตาม เกมนี้ต้องรอเช็กความฟิตของ อดัม ฮโลเซ็ค กองหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 28 ในนัดก่อน หากไม่พร้อมลงสนาม คาดว่า ลูคัส โปรว็อด จะได้รับโอกาสออกสตาร์ทแทน การจัดทัพยังคงยึดระบบ 4-2-3-1 เช่นเดิม โดยแผงแนวรุกจะใช้ ลูคัส โปรว็อด, วาคลาฟ เชร์นี่ และ พาเวล ซูลช์ ช่วยกันสร้างสรรค์เกมรุกอยู่ด้านหลัง ปาทริค ชิค ที่ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า แม้จะทำผลงานได้ดีเก็บชัยชนะรวด 3 นัดในรอบนี้และนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม แต่หากพิจารณาดีๆ คู่แข่งที่เจอมาล้วนเป็นทีมรองบ่อนทั้งสิ้น ทำให้เกมนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญของพวกเขาเพราะต้องดวลกับทีมแกร่งอย่างโครเอเชียที่มีระบบการเล่นลงตัวและเกมรุกจัดจ้าน

ทรรศนะ Ballded

ด้วยฟอร์มที่กำลังมั่นใจสุดขีดของ โครเอเชีย และการได้เล่นในบ้าน ทำให้พวกเขามีความได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด แม้ เช็ก จะทำผลงานได้ดีในรอบที่ผ่านมา แต่คู่แข่งที่เจอมายังไม่ใช่บทพิสูจน์ที่แท้จริง เกมนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญที่พวกเขาต้องเผชิญกับทีมระดับท็อปอย่างโครเอเชีย ที่มีระบบการเล่นที่ลงตัวและเกมรุกจัดจ้าน จากเรทราคาที่เปิดมาให้โครเอเชียต่อครึ่งลูก ยังมองว่าอยู่ฝั่งต่อดีกว่า ด้วยความเก๋าและความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย โครเอเชียน่าจะเฉือนคว้าชัยไปได้ในที่สุด

ฟันธง : โครเอเชียชนะ 2-1