ตามปกติแล้ว ทีมที่สามารถคว้าชัยชนะเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันอันทรงเกียรติอย่าง FA Cup ย่อมมีการเฉลิมฉลองอย่างบ้าคลั่งและน้ำตาแห่งความดีใจ แต่สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลับไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากเอาชนะ โคเวนทรี ซิตี้ ทีมจากลีกแชมเปี้ยนชิพ ด้วยการดวลจุดโทษในศึก FA Cup รอบรองชนะเลิศ เหล่าปีศาจแดงกลับแสดงอาการเฉยชาอย่างเห็นได้ชัด ลุค เอ็ดเวิร์ดส์ นักข่าวสายกีฬา ถึงกับเรียกเกมนี้ว่า "เป็นชัยชนะที่น่าอับอายที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในรอบหลายปี"

ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม นำห่าง โคเวนทรี ถึง 3-0 ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ทำท่าจะตัดสินผลแพ้ชนะได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่เหมือนกับหลายครั้งตลอดฤดูกาลที่ผันผวนนี้ สถานการณ์กลับตาลปัตรสำหรับทีมแชมป์ FA Cup 12 สมัย โคเวนทรี ทีมจากลีกดิวิชั่นสองของอังกฤษ ยิงสองประตูไล่มาติดกันภายใน 10 นาที ช่วงท้ายครึ่งหลัง สร้างความกดดันมหาศาลที่สนามเวมบลีย์ และเหมือนเคย ทีมปีศาจแดงไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่กดดันได้อีกครั้ง

เหมือนกับเกมที่แพ้ เชลซี และ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีกช่วงต้นเดือนนี้ แมนยู เสียจุดโทษช่วงท้ายเกมอีกครั้ง ซึ่ง โคเวนทรี ยิงเข้า จนต้องไปต่อเวลา ความอัปยศยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะ โคเวนทรี เล่นได้ดีกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบเกือบพลิกนัดชนะได้สำเร็จ แต่โชคยังเข้าข้างปีศาจแดง เมื่อมีการตัดสินล้ำหน้าในช่วงนาทีสุดท้าย จน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะไปได้จากการดวลจุดโทษ โดย ราสมุส เฮอจลุนด์ เป็นคนยิงจุดโทษชัยชนะ แต่บรรยากาศกลับเงียบเหงา ขณะที่กองหน้าตัวสำรอง ดีใจสุดขีด แสดงความภาคภูมิใจต่อหน้าแฟนบอล แต่เพื่อนร่วมทีมกลับไม่มีใครเข้าไปร่วมฉลองด้วย ยกเว้น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลัง ที่เดินไปแสดงความยินดีกับนักเตะ โคเวนทรี ทันที  นักเตะคนอื่นๆ ของยูไนเต็ด ส่วนใหญ่ยังคงยืนอยู่บริเวณกลางสนาม

ความสนใจกลับไปอยู่ที่ โคเวนทรี ที่เกือบสร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำในศึก FA Cup

"มันไม่มีทางที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะออกมาจากสนามแล้วบอกว่านี่เป็นวันที่ดีสำหรับพวกเขา สิ่งที่ดีอย่างเดียวคือผลการแข่งขัน ทุกอย่างที่เหลือเผยให้เห็นถึงความเปราะบาง ขาดผู้นำ และขาดคาแรคเตอร์" เอ็ดเวิร์ดส์ กล่าวกับพอดแคสต์ Football Daily ของ BBC

"พวกเขาหยุดเล่นเอาจริงและประเมิน โคเวนทรี ต่ำเกินไปจนเกือบต้องจ่ายราคาแพง

"พวกเขาเกือบหมดหนทางกลับบ้าน แต่การตัดสินของ VAR และด้วยปลายเล็บเท้าช่วยชีวิตพวกเขาไว้ พวกเขาห่างจากการตกรอบแค่ 20 วินาทีเท่านั้น"

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ FA Cup เจอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ฟอร์มการเล่นเพิ่มความกดดันให้ เทน ฮาก

แม้จะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ FA Cup เพื่อลุ้นแชมป์แรกของฤดูกาล แต่ฟอร์มการเล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยิ่งสร้างความกดดันให้กับ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีม

“ไม่รู้ว่าจะได้อะไร” รอย คีน อดีตกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กังวลมากที่สุดเรื่องการขาดผู้นำในทีม

“เรากำลังพูดคุยเรื่องแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบเดิมๆ ทุกสัปดาห์” คีน กล่าวกับ ITV

“คุณไม่รู้ว่าจะได้อะไรจากพวกเขา พวกเขาไร้ความสม่ำเสมอ เล่นเป็นช่วงๆ … เปิดโอกาสให้กับทีมคู่แข่งเสมอ

“ผมไม่เห็นคาแรคเตอร์ในกลุ่มนักเตะชุดนี้เลย  ผมเกือบจะไม่ชอบพวกเขาเข้าแล้ว …”

อนาคตของเทน ฮาก กับสโมสร ถูกตั้งคำถามตั้งแต่ จิม แร็ทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ เข้าซื้อหุ้น 25% ของสโมสรในปีนี้ ฟอร์มการเล่นแบบนี้ยิ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับทิศทางของสโมสรภายใต้การคุมทีมของเขา

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รั้งอันดับ 7 ในพรีเมียร์ลีก หลังช่วงผลงานที่เลวร้าย

แม้ฟอร์มการเล่นโดยรวมจะย่ำแย่ แต่ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวเนเธอร์แลนด์ยังพยายามมองโลกในแง่ดี หลังจากที่ทีมสามารถเข้าชิงชนะเลิศ FA Cup ได้เป็นครั้งที่สอง ภายในสองฤดูกาลภายใต้การคุมทีมของเขา

“มันเป็นเกมที่เหลือเชื่อ เป็นเกมที่แปลกประหลาดด้วย เราครองบอลได้อย่างเบ็ดเสร็จเกือบทั้งเกม แต่กลับเสียไปในช่วงท้าย เราแสดงความแข็งแกร่งออกมาด้วยการชนะจุดโทษ” เทน ฮาก กล่าวกับสื่อมวลชน

“มันเป็นความรู้สึกที่ปะปนกัน เราสามารถมีความสุขกับผลงานที่เข้าชิงชนะเลิศได้ มันยิ่งใหญ่มาก”

“ผมอยากจะชนะ ผมแน่ใจว่าเรามีโอกาสที่ดีที่จะคว้าแชมป์ แม้ว่าเราจะต้องเจอกับทีมที่ดีที่สุดในโลกก็ตาม เราก็ยังมีโอกาส เราเคยแสดงให้เห็นแล้วในฤดูกาลนี้”