การเลื่อนชั้นและตกชั้นในพรีเมียร์ลีก

การเลื่อนชั้นและตกชั้นในพรีเมียร์ลีก
ดู 159 ครั้ง 159

การเลื่อนชั้นและตกชั้นในพรีเมียร์ลีก

การตกชั้นในพรีเมียร์ลีกคืออะไร?


การตกชั้นเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นในลีกสูงสุดของอังกฤษ ซึ่งทีมที่โชคร้ายสามอันดับสุดท้ายจากการจัดอันดับคะแนนเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลจะต้องหลุดจากพรีเมียร์ลีก และไปแข่งขันในดิวิชั่นที่สอง ซึ่งเรียกว่า "แชมเปี้ยนชิพ" ในฤดูกาลถัดไป ทีมเหล่านี้ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่เพื่อพยายามเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งในกรณีที่มีหลายทีมที่มีคะแนนเท่ากัน การตัดสินใจเลือกทีมที่จะตกชั้นจะพิจารณาจากผลต่างประตู โดยคำนวณจากจำนวนประตูที่ทำได้ลบด้วยจำนวนประตูที่เสีย หากผลต่างประตูยังคงเท่ากัน อาจใช้เกณฑ์อื่นเพิ่มเติม เช่น จำนวนประตูที่ทำได้ทั้งหมด

 

การตกชั้นส่งผลอย่างไรต่อทีมในพรีเมียร์ลีก?


การตกชั้นถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์และส่งผลกระทบอย่างมากทั้งในแง่ของกีฬาและธุรกิจของสโมสร ทีมที่ตกชั้นจะสูญเสียสถานะในลีกสูงสุด ซึ่งไม่เพียงกระทบต่อชื่อเสียง แต่ยังทำให้เสี่ยงต่อการสูญเสียผู้เล่นระดับท็อปของทีม นอกจากนี้ สโมสรอาจสูญเสียรายได้มหาศาลจากการสนับสนุนทางการเงินและลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ซึ่งมีมูลค่าเป็นจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้อาจทำให้สโมสรตกอยู่ในสถานการณ์ทางการเงินที่ยากลำบาก เพิ่มความเสี่ยงในการเสียดุลฐานแฟนบอลและสูญเสียความสามารถในการดึงดูดผู้เล่นใหม่ สถานการณ์นี้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับทีมที่ตกลงไปในดิวิชั่นล่าง

การเลื่อนชั้นและตกชั้นในพรีเมียร์ลีก

ระบบการเลื่อนชั้นและตกชั้นของพรีเมียร์ลีก (Premier League)

เป็นกระบวนการที่กำหนดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของทีมฟุตบอลในลีกอังกฤษ โดยครอบคลุมทั้งการเลื่อนขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกและการตกลงไปยังลีกที่อยู่ในระดับต่ำกว่า ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้:
การเลื่อนชั้น
พรีเมียร์ลีกประกอบด้วย 20 ทีม ทีมที่จบลำดับที่ 1 และ 2 จากลีกแชมเปี้ยนชิป (Championship) ซึ่งเป็นลีกระดับที่สองของอังกฤษ จะได้รับสิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นมาแข่งขันในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลถัดไปโดยอัตโนมัติ
การแข่งขันเพลย์ออฟ
ทีมที่จบในอันดับ 3 ถึง 6 ของแชมเปี้ยนชิปจะเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ (Playoff) เพื่อชิงสิทธิ์เลื่อนชั้นเพิ่มเติมอีกหนึ่งทีม การแข่งขันนี้รวมถึงรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ โดยทีมผู้ชนะในรอบเพลย์ออฟจะได้ขึ้นมาแข่งขันในพรีเมียร์ลีก


การตกชั้น


ทีมที่จบลำดับท้ายสุดในอันดับที่ 18, 19 และ 20 ของพรีเมียร์ลีก จะต้องตกชั้นไปเล่นในลีกแชมเปี้ยนชิปในฤดูกาลต่อไป  กล่าวโดยสรุป ทีมในพรีเมียร์ลีกที่อยู่ในสามอันดับสุดท้ายจะต้องตกชั้นสู่แชมเปี้ยนชิป ส่วนทีมที่จบอันดับ 1 และ 2 ในแชมเปี้ยนชิปจะเลื่อนขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกทันที ขณะที่อีกหนึ่งสิทธิ์จะเป็นของทีมที่ผ่านการแข่งขันเพลย์ออฟจากอันดับ 3-6 ในแชมเปี้ยนชิป
พรีเมียร์ลีก (Premier League) คืออะไร??
เป็นลีกฟุตบอลอาชีพระดับสูงสุดของอังกฤษที่นำทีมชั้นนำ 20 ทีมมาประชันฝีเท้ากันในแต่ละฤดูกาล ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤษภาคมปีถัดไป ลีกนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในลีกฟุตบอลที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก พรีเมียร์ลีกก่อตั้งขึ้นในปี 1992 โดยแยกตัวออกจากระบบดิวิชั่น 1 ของฟุตบอลอังกฤษในขณะนั้น เพื่อสร้างความเป็นอิสระในการบริหารจัดการจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (The Football Association) และเพิ่มช่องทางหารายได้จากการถ่ายทอดสด รวมถึงการสนับสนุนเชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูง

การเลื่อนชั้นและตกชั้นในพรีเมียร์ลีก

ลักษณะการแข่งขันในพรีเมียร์ลีก


- จำนวนทีม รวมทั้งหมด 20 ทีม โดยแต่ละทีมจะแข่งขันแบบพบกันหมดทั้งเหย้าและเยือน รวมทีมละ 38 นัดต่อฤดูกาล  
- การเก็บคะแนน ชนะจะได้ 3 คะแนน, เสมอได้ 1 คะแนน, และแพ้ไม่ได้คะแนน  
- **การตกชั้นและเลื่อนชั้น ทีมที่อยู่ในอันดับ 18-20 จะตกชั้นไปเล่นในลีกแชมป์เปี้ยนชิป (Championship) ส่วนทีมอันดับ 1 และ 2 ของแชมป์เปี้ยนชิปจะเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกโดยอัตโนมัติ ขณะที่ทีมอันดับ 3-6 ในแชมป์เปี้ยนชิปจะแข่งขันเพลย์ออฟเพื่อหาผู้เลื่อนชั้นอีก 1 ทีม  
- การคว้าแชมป์ ทีมที่มีคะแนนรวมสูงสุดเมื่อจบฤดูกาลจะกลายเป็นผู้ครองตำแหน่งแชมป์  


ความสำคัญและความนิยม


พรีเมียร์ลีกเป็นที่รู้จักในฐานะลีกที่มีการแข่งขันเข้มข้นและดึงดูดความสนใจจากแฟนบอลทั่วโลก ไม่เพียงเพราะทีมดังระดับโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี, อาร์เซนอล และท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ แต่ยังด้วยคุณภาพของผู้เล่นและสไตล์การเล่นที่หลากหลาย นอกจากนี้ พรีเมียร์ลีกยังเป็นลีกที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนมหาศาลจากการเซ็นสัญญาผู้สนับสนุนและลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ทำให้ทีมแต่ละสโมสรสามารถลงทุนในการดึงตัวนักเตะชั้นนำจากทั่วโลกเข้าสู่ทีมของพวกเขา ส่งผลให้ลีกนี้กลายเป็นเวทีสำคัญของวงการฟุตบอลในระดับสากลแม้ว่าสโมสรในพรีเมียร์ลีกแต่ละทีมจะมีโอกาสตกชั้นในบางช่วงเวลา แต่สำหรับสโมสรใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา มักต้องเผชิญกับความยากลำบากมากกว่าสโมสรเก่าแก่ที่มีประสบการณ์ยาวนาน นอกจากนี้ บางทีมยังอาศัยการลงทุนซื้อนักเตะฝีเท้าดีเพื่อช่วยให้รอดพ้นจากการตกชั้นได้ จึงไม่แปลกที่แต่ละทีมในช่วงนี้ของฤดูกาลจะทุ่มเททุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์น่าอับอายอย่างการตกชั้นให้ได้


เกณฑ์การจัดอันดับเมื่อคะแนนเท่ากัน


ในกรณีที่สองทีมขึ้นไปมีคะแนนเท่ากัน ระบบจะใช้เกณฑ์เพิ่มเติมในการจัดอันดับดังนี้
1.    ผลต่างประตู (Goal Difference)คำนวณจากส่วนต่างระหว่างจำนวนประตูที่ทีมทำได้และจำนวนประตูที่เสียไป  
2.    จำนวนประตูที่ทำได้ (Goals Scored) ทีมที่ยิงประตูได้มากกว่าจะอยู่ในอันดับที่สูงกว่า  
3.    ผลการพบกันระหว่างทีม (Head-to-Head) หากคะแนนและผลต่างประตูยังเท่ากัน จะดูผลการแข่งขันระหว่างทีมเหล่านั้นในฤดูกาลเดียวกัน (จากการพบกันทั้งสองนัด)  
4.    ในกรณีที่ยังตัดสินไม่ได้ จะพิจารณาผลการแข่งขันโดยรวม หรือในที่สุดอาจใช้วิธีจับสลาก หากเกณฑ์ทั้งหมดไม่สามารถแยกอันดับได

 

อ่านเพิ่มเติม

เดวิด เบ็คแฮม : ซูเปอร์สตาร์ที่โลกฟุตบอลสร้าง และโลกทั้งใบยอมรับ

โดย บอลเด็ด เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2568

ชื่อของ เดวิด เบ็คแฮม (David Beckham) ไม่ได้เป็นเพียงสัญล...

อ่านต่อ ...
(การดู 78 ครั้ง)

คำสารภาพที่บีบหัวใจที่สุดของ “อาเดรียโน่” จักรพรรดิผู้แตกสลาย

โดย บอลเด็ด เมื่อ วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2568

“ผมรู้ดีว่าการเป็น ‘ความหวัง’ ของโลกฟุตบอลคืออะไร และผมก็...

อ่านต่อ ...
(การดู 125 ครั้ง)