ผลกระทบของ VAR ต่อแท็กติกฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก
ตั้งแต่ VAR (Video Assistant Referee) หรือ “ผู้ช่วยผู้ตัดสินด้วยวิดีโอ” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ พรีเมียร์ลีก (Premier League) เมื่อฤดูกาล 2019–20 โลกของฟุตบอลอังกฤษก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ระบบนี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยผู้ตัดสินให้ตัดสินได้ถูกต้องขึ้น โดยเฉพาะในจังหวะสำคัญอย่างประตู การให้ใบแดง หรือการฟาวล์ในเขตโทษ แต่ในอีกมุมหนึ่ง VAR ยังเปลี่ยนแนวทางการเล่นและแท็กติกของทีมต่าง ๆ ไปอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนยุค VAR การตัดสินใจทุกอย่างเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ ผู้เล่นบางคนใช้ “ลูกเล่นเล็ก ๆ” เช่น ดึงเสื้อ จงใจล้ม หรือยื้อตัวคู่แข่งเพื่อเรียกจุดโทษ แต่พอ VAR เข้ามา ทุกจังหวะในสนามถูกบันทึกไว้และสามารถย้อนดูได้จากหลายมุม นักเตะจึงต้องระวังมากขึ้น โดยเฉพาะแนวรับที่ไม่สามารถเล่นหนักหรือผลักคู่แข่งโดยไม่เสี่ยงโดนจับได้อีกต่อไป ขณะเดียวกัน นักเตะเกมรุกก็รู้ว่าต้องรักษาสมดุลให้ดี เพราะการ “พุ่งล้ม” หรือแกล้งโดนปะทะอาจกลายเป็นภาพซ้ำที่สร้างความเสียหายให้ทีมแทน
ผู้จัดการทีมเองก็ต้องปรับแท็กติกให้สอดคล้องกับยุคใหม่ การวางแผนแนวรับต้องแม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง “ล้ำหน้า” เพราะ VAR ใช้เส้นกราฟิกวัดตำแหน่งได้ละเอียดถึงระดับมิลลิเมตร ทีมที่ชอบเล่นแนวรับสูง เช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล ต้องซ้อมจังหวะดักล้ำหน้าอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้พลาดเพียงปลายเท้าแล้วเสียประตู นอกจากนี้ เวลาวางแผนเล่นลูกตั้งเตะ เช่น ลูกเตะมุมหรือฟรีคิกในเขตโทษ นักเตะจะถูกสั่งให้หลีกเลี่ยงการผลัก ดึง หรือกอดกันแน่นเกินไป เพราะภาพจาก VAR สามารถเผยทุกการกระทำที่เกิดขึ้นได้ชัดเจน
ผลกระทบอีกอย่างคือ “จังหวะของเกม” ที่เปลี่ยนไป ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในยุค VAR ดูจะช้าลงเล็กน้อยในบางช่วง เพราะผู้เล่นมักรอดูว่าผู้ตัดสินจะเช็กหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็ทำให้ทีมต่าง ๆ เน้นการเล่นอย่างรัดกุมและเน้นความแม่นยำมากขึ้นแทนที่จะเร่งเกมจนเสียฟาวล์โดยไม่จำเป็น
แม้ VAR จะยังเป็นที่ถกเถียงในหมู่แฟนบอล บางคนมองว่ามันทำให้เกมขาดอารมณ์สดและความตื่นเต้นในจังหวะเฉลิมฉลองประตู แต่ก็ต้องยอมรับว่าระบบนี้ช่วยให้ผลการแข่งขันยุติธรรมขึ้น และลดความผิดพลาดร้ายแรงที่อาจเปลี่ยนชะตาของทีมได้โดยสิ้นเชิง
สุดท้ายแล้ว VAR ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือของผู้ตัดสินเท่านั้น แต่มันคือ “ผู้เล่นคนใหม่” ที่ทุกทีมต้องเรียนรู้จะอยู่ร่วมกับมัน ทั้งในเชิงแท็กติกและจิตวิทยา เพราะในโลกฟุตบอลยุคใหม่ ความแม่นยำสำคัญไม่แพ้ความสวยงามของเกม และ VAR คือเครื่องมือที่กำลังเขียนนิยามใหม่ของคำว่า “ยุติธรรม” ในพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง